ข่าวทั่วไป

หัวภาพการบริหารและการปกครอง
รูปที่ 1 หลวงพ่อปาน

ไม่ทราบประวัติ

รูปที่ 2 หลวงพ่อมั่น

ไม่ทราบประวัติ

รูปที่ 3 หลวงพ่อพุธ

ไม่ทราบประวัติ

พระครูสมณวัตรรังสี
รูปที่ 4 พระครูสมณวัตรรังสี (บัว) โหมดศิริ
พระครูประสิทธิ์ธรรมวาที
รูปที่ 5 พระครูประสิทธิ์ธรรมวาที (หลวงพ่อศุข)
พระครูอนุวัตรสาธุกิจ
รูปที่ 6 พระครูอนุวัตรสาธุกิจ (ทองหล่อ กมโล) เภาพงษ์ พ.ศ. 2507-2545
พระครูวิโรจน์กิตติภัทร
รูปที่ 7 พระครูวิโรจน์กิตติภัทร ธมฺมวโร โหมดศิริ (ปัจจุบัน) พ.ศ. 2547–ปัจจุบัน

เหรียญหลวงพ่อทองหล่อ

เหรียญหลวงพ่อทองหล่อเป็นหนึ่งในวัตถุมงคลที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมจากพุทธศาสนิกชนและผู้ศรัทธาในจังหวัดฉะเชิงเทราและพื้นที่ใกล้เคียงมาอย่างยาวนานเชื่อกันว่าเหรียญหลวงพ่อทองหล่อมีพุทธคุณด้าน ความแคล้วคลาด ปลอดภัย เมตตามหานิยม และเป็นสิริมงคลแก่ผู้ครอบครองจึงมักเป็นที่เสาะแสวงหาของผู้ที่ศรัทธาในพระพุทธศาสนาและผู้ที่เคารพในบารมีของหลวงพ่อทองหล่อ

ลักษณะของเหรียญส่วนใหญ่จะปรากฏ รูปเหมือนหลวงพ่อทองหล่อ ประดิษฐานอยู่ตรงกลาง ด้านรอบเหรียญมักจะมีการลง อักขระเลขยันต์และคาถามงคล เพื่อเพิ่มความเป็นสิริมงคลและเสริมพลังทางความเชื่อ โดยการจัดสร้างเหรียญแต่ละครั้งมักเกิดขึ้นในวาระสำคัญ อาทิ วันครบรอบวันมรณภาพ การครบรอบการบวช การระดมทุนเพื่อบูรณะปฏิสังขรณ์วัด หรือสร้างเสนาสนะ เช่น ศาลาการเปรียญ กุฏิพระ และพระอุโบสถ

ชื่อ: ยิ่งยง นามสกุล: โหมดศิริ
เกิดเมื่อ: วันจันทร์ ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2514 (ปีกุน)
บิดา: นายจรัญ โหมดศิริ
มารดา: นางลำยอง โหมดศิริ

ท่านเคยดำรงตำแหน่ง ครูสอนสงฆ์ ทำหน้าที่เป็นกำลังสำคัญในการเผยแพร่ความรู้ทางพระพุทธศาสนาแก่พระภิกษุและสามเณรผู้ศึกษาเล่าเรียนในสำนักเรียน จนเป็นที่ยกย่องว่าเป็นผู้มุ่งมั่น เสียสละ และมีความรับผิดชอบสูง ในนามทางการศึกษาพระสงฆ์ ท่านใช้ชื่อว่า “พระครูวิโรจน์กิตติภัทร”

ด้วยความเพียรพยายาม ความรู้ความสามารถ และความเมตตาที่มีต่อศิษยานุศิษย์และชาวบ้าน วัดบ้านนาเทพธารามจึงได้แต่งตั้งท่านขึ้นเป็นเจ้าอาวาส เพื่อสืบสานภารกิจในการปกครองคณะสงฆ์และพัฒนาวัดให้เจริญก้าวหน้ายิ่งขึ้น

ปัจจุบัน พระครูวิโรจน์กิตติภัทร (ยิ่งยง โหมดศิริ) ยังคงปฏิบัติหน้าที่เจ้าอาวาสด้วยความตั้งใจและอุทิศตนอย่างเต็มกำลัง ดูแลทั้งการปกครองคณะสงฆ์ การทำนุบำรุงวัด การพัฒนาสาธารณประโยชน์แก่ชุมชน ตลอดจนการส่งเสริมการศึกษาพระปริยัติธรรมและกิจกรรมทางพระพุทธศาสนา ทำให้วัดบ้านนาเทพธารามยังคงเป็นศูนย์กลางจิตใจของชาวพุทธในพื้นที่อย่างมั่นคง

วิทยฐานะ

  • พ.ศ. 2532 – มัธยมศึกษาปีที่ ๖ โรงเรียนเบญจมราชรังสฤษฎิ์
  • พ.ศ. 2535 – นักธรรมชั้นเอก (เลขที่ประกาศนียบัตร ฉช 26/2535)
  • พ.ศ. 2555 – ปริญญาตรี พุทธศาสตรบัณฑิต (บริหารการศึกษา) มจร.
  • พ.ศ. 2556 – ปริญญาโท พุทธศาสตรมหาบัณฑิต (รัฐประศาสนศาสตร์) มจร.
  • ความชำนาญ: เทศนา ปฏิภาณโวหาร นวกรรม ออกแบบ ก่อสร้าง บูรณปฏิสังขรณ์ งานบริหาร ฯลฯ
โลโก้วัดบ้านนา

วัดบ้านนาเทพธารามเป็นวัดราษฎร์ สังกัดคณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย ตั้งอยู่เลขที่ 2 บ้านนา หมู่ที่ 5 ตำบลบางกะไห อำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา ชาวบ้านทั่วไปนิยมเรียกขานกัน สั้น ๆ ว่า“ วัดบ้านนา”วัดแห่งนี้ไม่เพียงเป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา หากยังเป็นศูนย์รวมจิตใจ และเป็นศูนย์กลางทางสังคม วัฒนธรรม และการศึกษาแก่ชุมชนบ้านนาและพื้นที่ใกล้เคียงมาอย่างยาวนาน


การก่อตั้งวัดบ้านนาเทพธารามเกิดขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2400 โดยมี นายอินทร์ และนางพลัด จันทร์ประภา ผู้มีจิตศรัทธา ได้มอบที่ดินจำนวน 14 ไร่ 3 งาน 31 ตารางวา เพื่อใช้ในการสร้างวัดและอุทิศให้เป็นสมบัติของพระพุทธศาสนาและชุมชนบ้านนาต่อมาเมื่อปี พ.ศ. 2492 วัดได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมากว้าง16เมตรยาว30เมตรถือเป็นหลักฐานยืนยันความเป็นวัดโดยสมบูรณ์และเป็นก้าวสำคัญในการสืบทอดพระพุทธศาสนาในท้องถิ่น

ตลอดระยะเวลาอันยาวนาน วัดบ้านนาเทพธารามได้พัฒนาทั้งด้านโครงสร้างและกิจกรรมทางศาสนาอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งในปีพ.ศ. 2492วัดได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาขนาดกว้าง 16 เมตร ยาว 30 เมตร อันเป็นหมุดหมายสำคัญที่ยืนยันความเป็นวัดโดยสมบูรณ์ทางกฎหมายสงฆ์และนับเป็นก้าวสำคัญในการสืบทอดพระพุทธศาสนาให้มั่นคงยิ่งขึ้น

นอกจากความเป็นศูนย์กลางทางศาสนาแล้ว วัดบ้านนาเทพธารามยังมีบทบาทสำคัญในด้านการศึกษาและการพัฒนาชุมชน เด็กและเยาวชนในพื้นที่จำนวนมากได้อาศัยวัดแห่งนี้เป็นแหล่งเรียนรู้ ทั้งในรูปแบบโรงเรียนพระปริยัติธรรมและกิจกรรมเสริมสร้างคุณธรรมจริยธรรม เช่น การบวชเรียนในฤดูร้อน การสอนหนังสือไทยในอดีต ตลอดจนการจัดกิจกรรมวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา อาทิ วันมาฆบูชา วิสาขบูชา และวันอาสาฬหบูชา ซึ่งทำให้วัดบ้านนากลายเป็นศูนย์รวมกิจกรรมของชุมชน

นอกจากนี้ ภายในวัดยังประดิษฐานพระอุโบสถ เจดีย์ ศาลาการเปรียญ และกุฏิสงฆ์ที่ได้รับการบูรณะต่อเติมอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับพุทธศาสนิกชนที่มาทำบุญ สวดมนต์ ฟังธรรม และปฏิบัติธรรม วัดยังคงเป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมสำคัญของชุมชน เช่น งานทอดกฐิน งานผ้าป่า พิธีทำบุญขึ้นบ้านใหม่ และพิธีบำเพ็ญกุศลต่าง ๆ ซึ่งสืบสานความเชื่อและวัฒนธรรมไทยไว้อย่างเหนียวแน่น