วิหารแห่งนี้เป็นสถานที่ประดิษฐานพระพุทธรูปสำคัญของวัดบ้านนาเทพธาราม โดยมีซุ้มทางเข้าโดดเด่นด้วยลวดลายไทยและรูปปั้นพระราหูอยู่ด้านบน เป็นสัญลักษณ์ของการปัดเป่าสิ่งไม่ดีและขจัดอุปสรรค ชาวบ้านนิยมมากราบไหว้เพื่อความเป็นสิริมงคล ปลอดภัยจากเคราะห์กรรม และเสริมโชคลาภวิหารแห่งนี้ถือเป็นศูนย์กลางทางจิตใจของ วัดบ้านนาเทพธาราม ใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา เช่น การสวดมนต์ ทำบุญ และ กิจกรรมวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ ที่ชาวบ้านเคารพบูชาบริเวณซุ้มประตูมีรูปปั้นพระราหูซึ่งเชื่อกันว่ามีพลังในการปัดเป่าเคราะห์กรรมและสิ่งชั่วร้าย จึงเป็นจุดที่ผู้คนมักมากราบไหว้ขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคลและความปลอดภัย ถือเป็นทางเข้าที่เป็นสัญลักษณ์ของการเข้าสู่พื้นที่ศักดิ์สิทธิ์

ภายในศาลาขนาดย่อมมีองค์พระราหูขนาดใหญ่ ลักษณะ กำลังอมดวงจันทร์ พร้อมยื่นมือทั้งสองข้างโอบล้อมองค์พระพุทธรูปที่อยู่ด้านใน สื่อถึงพลังปกป้องและคุ้มครอง ผู้คนมักมากราบไหว้ในคืนวันราหู (คืนพุธกลางคืน) เพื่อขอให้พ้นเคราะห์ เสริมดวงชะตา และให้ชีวิตราบรื่นปลอดภัย ถือเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นทางศิลปะและจิตใจของ วัดบ้านนาเทพธารามองค์พระราหูอมจันทร์เป็นหนึ่งในจุดที่ผู้ศรัทธามักมากราบไหว้ในวันพุธกลางคืนหรือวันที่เชื่อว่าเป็นวันของราหู เพราะมีความเชื่อว่าจะช่วยขจัดเคราะห์กรรม เสริมดวงชะตา และคุ้มครองจากสิ่งไม่ดี องค์พระราหูที่สร้างอย่างยิ่งใหญ่โดยมีพระพุทธรูปอยู่ภายในฝ่ามือ แสดงถึงความศักดิ์สิทธิ์และความเชื่อเรื่องพลังปกป้อง จึงเป็นสถานที่สำคัญอีกแห่งของวัด ที่ดึงดูดผู้คนให้มากราบไหว้ทั้งชาวบ้านและผู้มาเยือน

ภายในถ้ำจำลองที่จัดสร้างไว้อย่างสวยงามมีพระพุทธรูปหลายองค์ประดิษฐานเรียงรายอยู่ร่วมกับบาตรพระ เป็นพื้นที่ที่ชาวพุทธสามารถเข้ามากราบไหว้ ทำบุญ ใส่เหรียญบาตรตามความเชื่อ เพื่อเสริมบุญบารมีให้ครบถ้วนทั้ง 108 ประการสถานที่นี้จึงไม่ใช่เพียงสถานที่ทางศิลปกรรมแต่ยังมีความหมายเชิงธรรมะและเป็นที่รวมของกิจกรรมสร้างบุญของญาติโยม ที่มาวัดเป็นหนึ่งในจุดสำคัญที่สะท้อนพุทธศิลป์และการปฏิบัติธรรมอย่างแท้จริง

บริเวณศาลานี้มีรูปเคารพ 3 องค์สำคัญ:

• องค์ที่ 1: ท้าวเวสสุวรรณ (ด้านซ้าย - สีเขียวทอง) ความสำคัญ: เป็นเทพแห่งความมั่งคั่ง ร่ำรวย และคุ้มครองจากภูตผีปีศาจ บทบาทในวัด เชื่อกันว่าท้าวเวสสุวรรณช่วยปกป้องวัดและผู้ศรัทธาจากสิ่งชั่วร้าย และส่งเสริมโชคลาภผู้คนมักมากราบไหว้ เพื่อขอเรื่องโชคลาภ การเงิน ความปลอดภัยจากสิ่งอัปมงคล
• องค์ที่ 2: สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ผู้คนเชื่อกันว่าหากมากราบสักการะสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชด้วยจิตใจศรัทธา จะได้รับพลังแห่งความกล้าหาญ เด็ดเดี่ยว สมาธิในการฟันฝ่าอุปสรรค รวมถึงขอพรให้มีความสำเร็จในหน้าที่การงานและชีวิต
• องค์ที่ 3: ท้าวเวสสุวรรณ (ด้านขวา - สีม่วงทอง) ความสำคัญ: เช่นเดียวกับองค์ซ้าย แต่สีและรูปแบบต่างกันเพื่อแสดงถึงคุณลักษณะที่แตกต่างกันของท้าวเวสสุวรรณในแต่ละปาง บทบาทในวัดเสริมความสมดุลในการคุ้มครอง ซ้ายและขวาทั้งสองด้านหมายถึงการปกป้องรอบด้าน ผู้คนมักมากราบไหว้เพื่อขอพรเรื่องอำนาจ วาสนา ความสำเร็จ และขจัดอุปสรรค ศาลานี้เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ช่วยส่งเสริมความศรัทธาแก่ผู้มาวัด เป็นจุดรวมพลังศรัทธาและจิตวิญญาณของชาวบ้านที่มาไหว้ขอพร เพื่อให้เกิดความมั่นคง ปลอดภัย โชคลาภและความเจริญรุ่งเรืองแก่ชีวิตแลครอบครัว ตลอดจนเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจของชุมชนรอบวัดด้วย